สนใจลงโฆษณา โทร 076210624 หรือ Email: pr_studioline@hotmail.com Line ID: studioline93 ขอเพลง โทร 076216988 ,
       
 

หนุ่มใหญ่เสียชีวิตภายในคอนโดหรูที่ภูเก็ต

2015-08-08

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หนุ่มนอนเสียชีวิตภายในห้องพักคอนโดมิเนียมชื่อดังในพื้นที่ ต.รัษฎา ตร.คาดเกิดจากหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน ตรวจสอบพบเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
หนุ่มใหญ่เสียชีวิตภายในคอนโดหรูที่ภูเก็ต
เมื่อเวลา 14.20 น. วันนี้ (7 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีคนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักชั้น 7 คอนโดมิเนียมชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รัษฎา ถ.เทพกระษัตรี อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง พ.ต.ท.ชนะ สุทธิมาศ พนักงานสอบสวนชำนาญพิเศษ สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย ร.ต.ท.ชาตรี เวชรังสี รอง สวป.สภ.เมืองภูเก็ต แพทย์โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

ที่เกิดเหตุอยู่พบประตูปิดล็อกมาจากด้านใน และมีกลิ่นเหม็นมาจากห้องดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป ปรากฏว่า พบศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนเตียงภายในห้องพัก ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมบัติ ศิลป์สาคร อายุ 38 ปี สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีแดงเพียงตัวเดียว ขณะที่ทีวีภายในห้องเปิดอยู่ และภายในห้องน้ำบริเวณชักโครกมีคราบรอยอาเจียน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และภายในห้องไม่พบการรื้อค้นแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงนำศพส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ชันสูตรอย่างละเอียด

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลวชิระร่วมกันชันสูตรพลิกศพ คาดว่าผู้ตายน่าจะเสียชีวิตมาจากหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน ซึ่งผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนต่อไป พร้อมประสานญาติให้มารับศพนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

จากการสอบถามผู้จัดการคอนโด ทราบว่า ผู้ตายพักอยู่ที่ห้องดังกล่าวเพียงลำพังคนเดียว โดยปกติผู้ตายจะออกไปทำงานทุกเช้า แต่ไม่เห็นผู้ตายออกมาจากห้อง 2 วันแล้ว จึงให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ขึ้นไปดูที่ห้อง และ รปภ.ได้เรียกเคาะประตูห้องก็ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ทาง รปภ.ได้กลิ่นเหม็นเน่ามาจากภายในห้องจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบในที่สุด

ที่มา http://manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9580000089428
  

Back to Top