|
|||||||||||||||||
|
|
||||||||||||||||
ทนาย เผย ครูแจ้งความจับอดีตตำรวจขโมยลอตเตอรี่ 30 ล้าน ยินดีแบ่งเงินครึ่งหนึ่ง
2017-12-06
ทนาย เผย ครูแจ้งความจับอดีตตำรวจ ปมถูกหวย 30 ล้าน ยินดีแบ่งเงินรางวัลให้ 15 ล้าน ถือว่าเคยทำบุญร่วมกันมา พร้อมเผยอีก พบพิรุธหลายจุด เชื่อทำเป็นขบวนการจากกรณีที่มีอดีตตำรวจร้องทุกข์ว่าถูกครูแจ้งจับ หลังจากที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท งวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 พร้อมกับอ้างว่าเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริง (อ่านข่าว โผล่อีก คดีหวยอลเวง ลุงถูกลอตเตอรี่ 30 ล้าน แต่ถูกกล่าวหาเป็นหัวขโมย !!)
โดยนายปรีชา กล่าวว่า ตนได้สั่งให้แม่ค้าขายลอตเตอรี่ที่สนิทกัน เก็บเลขท้าย 26 เลขมงคลเอาไว้ให้ตน และเมื่อไปรับสลากก็เก็บใส่กระเป๋าเสื้อ นำเก็บต่อยังกระเป๋าในรถยนต์ พอพบว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็รีบกลับไปตรวจสอบในกระเป๋า แต่ไม่พบ จากนั้นจึงได้แจ้งความกับ สภ.เมืองกาญจนบุรี วันที่ 2 พฤศจิกายน และวันที่ 3 พฤศจิกายน ก็ได้ไปสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่ออายัดการเบิกจ่าย แต่พบว่า มีข้าราชการตำรวจนอกราชการเบิกออกไปแล้ว 4 ล้านบาท
ด้านนางรัตนาพร ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายปรีชา ตนได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานเอาไว้แล้ว ยืนยันได้ว่านายปรีชาซื้อจากตนจริง ๆ
ขณะเดียวกัน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้ช่วยเหลืออดีตตำรวจที่ถูกลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท แต่จู่ ๆ ก็ถูกตำรวจเรียกตัวไปพบ แจ้งว่าเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยลอตเตอรี่ของครูท่านหนึ่ง จึงต้องอายัดเงิน 30 ล้านบาทเอาไว้ ทั้งนี้ อดีตตำรวจยืนยันว่า ซื้อมาด้วยความสุจริต แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ ระบุว่า มีหลักฐานว่าครูไปซื้อ มีแม่ค้าลอตเตอรี่มายืนยัน
ทั้งนี้ อดีตตำรวจทุกข์ใจมากที่จู่ ๆ เป็นผู้ต้องหา ส่วนเจ้าหน้าที่ธนาคารระดับสูงท่านหนึ่ง มองว่าอาจเป็นขบวนการสมอ้างถูกรางวัล
ต่อมา นายษิทรา ได้พูดคุยกับคุณครูที่อ้างตัวว่าซื้อลอตเตอรี่ ซึ่งคุณครูระบุว่า เป็นคนซื้อรางวัลจริง มีหลักฐานแน่นหนา เพราะคุยไลน์กับคนขายลอตเตอรี่แล้วว่าจะซื้อเลข 26 และคนขายก็ยืนยันว่า ตนซื้อเลขที่ถูกรางวัลที่ 1 จริง จำเลขที่ขายให้ตนได้ทุกตัวทุกฉบับ แต่ถ้าอดีตตำรวจจะเจรจา ก็ยินดีแบ่งเงินให้ 15 ล้าน เพราะถือว่าเคยทำบุญร่วมกันมา อีกทั้งตนเป็นผู้โอบอ้อมอารี ชอบแบ่งปัน อยากให้จบเรื่อง
พอนายษิทราขอดูไลน์ในโทรศัพท์ กลับไม่มีข้อความที่คุยกับคนขายหวย จึงได้สอบถาม เจ้าตัวบอกว่า ตำรวจไม่ต้องการให้เผยแพร่ จึงเก็บข้อความนั้นไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว นายษิทราเห็นความพิรุธในคดีนี้ จึงตัดสินใจเป็นทนายให้อดีตตำรวจ และเมื่อได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่การเงินระดับสูง ก็พบว่า มีขบวนการนี้ เป็นนายตำรวจระดับสูงรับงาน หากสำเร็จจะมีค่าดำเนินการ 15 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดโปงต่อไป