จิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2560 กับ 10 เหตุผลที่ควรไปสนุกสนาน

2017-12-07

ชวนไปสนุกสนานกับจิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2560 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สวย ๆ ในหน้าหนาว ชมทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย พร้อมกับเรียนรู้วิถีชีวิตอีสานและร่วมกิจกรรมสนุกสนานมากมาย

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม นอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าไหมแล้ว ปัจจุบันยังเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตทางภาคอีสานและเป็นแหล่งชมดอกไม้หน้าหนาวที่สวยงามอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเลยทีเดียว และได้มีการเปิดให้เข้าชมฟาร์มเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งปีนี้ก็มีการจัดจิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2560 ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2560 - 7 มกราคม 2561 หลายคนอาจจะคิดว่าจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม อยู่ไกลจากกรุงเทพฯ แล้วมันจะคุ้มค่ากับการขับรถมาเที่ยวหรือไม่ วันนี้เราจะพาไปชมที่นี่ พร้อมกับบอกเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรมาเที่ยวที่นี่สักครั้ง
รู้จักกับจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ตำบลตะขบ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา แต่เดิมนั้นที่นี่เป็นแหล่งปลูกต้นหม่อนเพื่อนำไปเลี้ยงหนอนไหม แล้วนำไปสู่กระบวนการทอผ้าไหมคุณภาพดี ซึ่งได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ต่อมาก็มีการรวบรวมสถาปัตยกรรมไทยอีสานมาไว้ในฟาร์ม เกิดเป็นหมู่บ้านอีสานน้อย ๆ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้เข้าชมฟาร์ม โดยยังคงยึดมั่นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีการคิดคอนเซ็ปต์ของการจัดงานในแต่ละปีแตกต่างกันออกไป โดยอิงจากวิถีชีวิตและธรรมชาติของภาคอีสาน

อย่างในปีนี้ก็มีการจัดจิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2560 ภายใต้แนวคิด "เต๋อเติน เวินวัง-พลังแห่งน้ำ" ซึ่งจะสะท้อนความสำคัญของแม่น้ำโขงต่อคนอีสาน ไปพร้อม ๆ กับตำนานยักษ์สะลึคึ หนึ่งในตำนานที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังมีการปลูกดอกไม้ พร้อมกับการตกแต่งรอบ ๆ ฟาร์มอย่างสวยงาม

10 เหตุผลที่ควรไปเที่ยวจิม ทอมป์สัน ฟาร์มทัวร์ 2560

1. แหล่งรวบรวมหมู่บ้านอีสาน
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ได้มีการเก็บรวบรวมสถาปัตยกรรมอีสานมาไว้ภายในฟาร์มหลากหลายแบบบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ เกิดเป็นหมู่บ้านอีสานขนาดเล็ก ๆ ซึ่งมีทั้งบ้านโคราช บ้านภูไท และเรือนเหย้า โดยมีบ้านอีสานและบ้านโคราชรวม 16 หลัง นอกจากนี้ก็ยังมีศาสนาคาร 4 หลัง ได้แก่ หอแจก สิมกลางน้ำ หอไตร และหอกลาง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดโครงการ Art on Farm มีการนำศิลปะเข้ามาร่วมกับการเกษตรและงานสถาปัตยกรรมอีสาน โดยให้เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตและธรรมชาติในภาคอีสาน เราจึงจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับอีสานที่นี่ ในงานเปิดฟาร์มแต่ละปีก็จะมีการจัดแสดงวัฒนธรรมอีสานให้ชมกัน รวมไปถึงวัฒนธรรมการกินของชาวอีสาน ก็มีการผนวกเข้ามาไว้ที่นี่ด้วย อย่างในปี 2560 ก็ได้มีการจัดงานในธีม "เต๋อเติน เวินวัง-พลังแห่งน้ำ" เพื่อสะท้อนให้เห็นความสำคัญของน้ำและลำน้ำโขงที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวอีสานมาอย่างยาวนาน มีการจัดตกแต่งรอบ ๆ ฟาร์มให้สอดคล้องกับสายน้ำโขงด้วย

2. ทุ่งดอกคอสมอสและดอกไม้หลากสีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
ทุ่งดอกคอสมอสสีชมพูหวานและทุ่งดอกไม้หลากสีได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม โดยเฉพาะทุ่งดอกคอสมอสที่มีการนำพันธุ์จากต่างประเทศมาปลูกบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ นักท่องเที่ยวจะได้เดินเล่นถ่ายรูปกับดอกคอสมอสสีชมพูหวานที่กำลังบานสะพรั่งรับลมหนาวอย่างจุใจ โดยทุ่งคอสมอสจะอยู่บริเวณด้านหน้าฟาร์ม เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับจุดนี้เลย

ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีทุ่งดอกทานตะวัน และทุ่งดอกไม้หลากสีที่อยู่ด้านในฟาร์มให้ได้ไปถ่ายรูปเก็บความประทับใจกันอย่างไม่รู้เบื่อเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นดอกผักเสี้ยนฝรั่ง, ดอกกุหลาบ, ดอกดาวกระจายสีเหลือง, ดอกซัลเวีย, ดอกดาวเรือง เป็นต้น

3. มีฟักทองใหญ่ยักษ์และฟักทองแปลก ๆ ที่หาดูได้ยากในไทย
ลานฟักทอง เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวห้ามพลาดของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม โดยที่จุดนี้จะจัดแสดงฟักทองพันธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะพันธุ์พัมคิน (Pumpkin) ฟักทองสีเหลืองทั้งลูกใหญ่ยักษ์และลูกเล็ก นำมาจัดวางในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสวยงาม ถ่ายรูปกันได้หลากหลายมุม จะนั่งจะนอนก็ดูสนุกไปหมด ในบริเวณใกล้เคียงกันก็ยังสามารถไปสนุกสนานกับทุ่งดอกไม้หลากสี และชมการแสดงอีสานได้อีกด้วย

4. ตามรอยสถานที่ถ่ายทำละครดังแห่งปี

ด้วยความสวยงามของจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม และยังเป็นสถานที่รวบรวมสถาปัตยกรรมอีสานที่ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง จึงทำให้ละครหลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่ เรื่องที่โดดเด่นที่สุด ก็คือ นาคี โดยเลือกเฮือนนางสาหร่ายเป็นบ้านของคำแก้ว นางเอกของเรื่อง ซึ่งจากจุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอีสาน และเมื่อขึ้นไปยืนบนระเบียงของบ้านก็จะได้เห็นทุ่งดอกไม้หลากสี รวมทั้งจมูกสีแดงของยักษ์สะลึคึและไหดักน้ำค้างยักษ์อันโดดเด่น

5. ถ่ายรูปสนุก
ด้วยความที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ได้จัดตกแต่งพื้นที่รอบ ๆ ฟาร์มอย่างสวยงาม เพราะฉะนั้นที่นี่จะมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ๆ แค่เฉพาะดอกไม้ก็ถ่ายกันไม่ไหวแล้วจริง ๆ แต่ก็ยังมีจุดถ่ายรูปสวยแจ่มอื่น ๆ ให้ได้ไปแชะภาพอีกมากมาย อาทิ ซุ้มไม้ไผ่ด้านหน้าฟาร์มที่ได้แรงบันดาลใจจากลำน้ำโขง, ศิลปะชุดลวงปลา, เครื่องจักสานวิถีแห่งน้ำชุด "สุดเหวี่ยง", งานศิลปะชุด "บั้งไฟพญานาค : ความเชื่อแห่งลุ่มน้ำโขง", เรือนไม้เก่าแก่ในหมู่บ้านอีสาน, บ้านบุญหลาย ครอบครัวควายสุดน่ารัก, อุโมงค์ปลาหลากสี, แปลงผักสลัด, ทิวสวนสน, ปราสาทข้าว, ลานรางส่งน้ำ, รถนิทรรศการหมอลำ เป็นต้น

6. เรียนรู้เรื่องราวของผ้าไหมคุณภาพดีแห่งจิม ทอมป์สัน

ถ้าพูดถึงผ้าไหมไทย ชื่อของจิม ทอมป์สัน ก็อยู่ในอันดับต้น ๆ การมาเยือนที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จึงถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า เพราะคุณจะได้ชมตั้งแต่แปลงปลูกต้นหม่อน อันเป็นพืชที่นำไปเลี้ยงตัวไหม ไปจนถึงขั้นตอนการทอผ้าไหมที่ประณีตบรรจง จนกลายเป็นผืนผ้าไหมแสนสวยที่เราเห็นกัน และยังจะได้เลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผ้าอื่น ๆ จากจิม ทอมป์สัน ในราคาย่อมเยาอีกด้วย

7. รวมอาหารอีสานสุดอร่อย
ใครที่ชอบอาหารอีสาน จะต้องหลงรักที่นี่อย่างแน่นอน เพราะมีทั้งขนมโบราณ และอาหารอีสานอร่อย ๆ ให้ได้เลือกกินกันอย่างจุใจ และนักท่องเที่ยวยังสามารถลองทำได้ในบางจุดด้วย ราคาก็ย่อมเยา รสชาติอร่อยสุด ๆ

8. กิจกรรมเด่น
การมาเที่ยวที่จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม คุณจะได้ทำอะไรสนุก ๆ มากกว่าการถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับดอกไม้แน่นอน เพราะที่นี่เขาได้จัดกิจกรรมดี ๆ ไว้ให้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอิ้วฝ้าย, การเข็นฝ้าย, การสีข้าว, การฝัดข้าว, การระบายสีฟักทองและของเล่นดินเผา, การทำขนมโบราณ, การล่องเรือ, การจัดดอกไม้จากฟักทอง เป็นต้น

9. แหล่งช้อปปิ้งสินค้าสด ๆ จากสวนและผลลิตภัณฑ์ทำมือต่าง ๆ
นอกจากการเที่ยวชมในฟาร์มแล้ว ทางจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ยังได้จัดพื้นที่สำหรับตลาดจิมไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากทางฟาร์ม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อกลับบ้านกันได้ ใครชอบใจผลิตภัณฑ์ไหนก็เลือกจับจ่ายกันได้เลย มีทั้งผัก-ผลไม้สด ๆ ต้นไม้ ดอกไม้หลากสีสัน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผัก-ผลไม้ในฟาร์ม ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและผ้าทอ รวมทั้งสินค้าแฮนด์เมดจากจิม ทอมป์สัน เป็นต้น

10. สามารถเที่ยวได้ทุกเพศทุกวัย
ด้วยการจัดการพื้นที่และการจัดทำกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้ที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จำกัดอายุ ในแต่ละจุดจะมีรถนำเที่ยวคอยให้บริการครอบคลุมทั่วฟาร์ม มีจุดพักเที่ยวหลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ก็สามารถมาดื่มด่ำกับความสุขแบบนี้กันได้ เหมาะแก่การพาครอบครัวมาใช้เวลาวันหยุดว่าง ๆ ร่วมกันที่สุด

เพื่อให้ง่ายต่อการเที่ยวในฟาร์ม ก็จะแบ่งออกเป็น 5 โซนหลัก ๆ ได้แก่

1. ทุ่งคอสมอสและแปลงผักปลอดสารพิษ

- ซุ้มแม่น้ำโขง
- ทุ่งคอสมอส
- U Pick Garden
- รถนิทรรศการหมอลำ
2. ลานฟักทอง และทุ่งดอกไม้หลากสี

- ทุ่งทานตะวัน
- ลานจึ่งขึ่งดังแดง
- ลานยกยอ
- ลานฟักทองยักษ์
- ไหดักน้ำค้าง
3. หมู่บ้านอีสาน

- เรือนนางสาหร่าย
- ปราสาทน้ำ
- ผลงานศิลปะ "ลวงปลา"
- สวนลอยน้ำ
- ผลงานศิลปะ "บั้งไฟพญานาค"
- คอกบุญหลาย
- หอแจก (โซนร้านอาหาร)
- นิทรรศการภาพถ่ายเกล็ดน้ำ
- หอกลาง
- สิมกลางน้ำ
- หอไตรกลางน้ำ
- ท่าเรือหมู่บ้านอีสาน
4. หมู่บ้านจิม

- โรงทอผ้าหมู่บ้านจิม

5. ตลาดจิม

- ท่าเรือตลาดจิม
- ลานรางส่งน้ำ
- เนินดอกคอสมอส
- แปลงปลูกผักไฮโดรโปนิกส์