รายการอินโดฯ โดนจวกยับ เหตุเอาหอยมือเสือ สัตว์คุ้มครองของชาติ มาปรุงอาหาร

2018-04-25

กลุ่มนักอนุรักษ์อินโดนีเซียร้องเรียนรายการท่องเที่ยวดัง หลังผู้ร่วมรายการเอา หอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครอง มาปรุงอาหาร รายงานเผย ทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกระจายเสียงแล้ว

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 เว็บไซต์จาการ์ตาโพสต์ รายงานว่า กลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายกลุ่มของอินโดนีเซีย ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงของอินโดนีเซีย หลังพบว่า สมาชิกในรายการ ปารา เปตูอาลัง จันติก (Para Petualang Cantik - The Beautiful Adventurers) หรือ แปลเป็นไทยได้ว่า "นักผจญภัยผู้สวยงาม" รายการเรียลลิตี้ท่องเที่ยวชื่อดัง ฉายทางสถานีโทรทัศน์ TransTV นำเอาเอาหอยมือเสือ (giant clams) ซึ่งเป็นสัตว์สงวนของชาติ จากเกาะเดอราวัน มาใช้ปรุงอาหาร
กลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจาก 4 องค์กร คือ Profauna Indonesia, Urban Wildlife Conservation Forum และ Eco Diver Journalists ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์รายการดังกล่าวอย่างรุนแรง กล่าวว่า การนำหอยมือเสือ หรือชื่อในภาษาอินโดนีเซียว่า กิมา มาปรุงอาหาร คือสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจากหอยชนิดนี้ คือหนึ่งในสัตว์คุ้มครองตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส (CITES - Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora ) และ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (IUCN - International Union for Conservation of Nature and Natural Resources) และมันยังเป็นถูกจัดให้เป็นสัตว์สงวนของชาติ ตามกฎระเบียบรัฐบาล มาตราที่ 7/199 ว่าอนุรักษ์พันธุ์พืชและสัตว์

ดร.เฮอลิมา อกุสติน นักอนุรักษ์จากองค์กร Profauna Indonesia และหัวหน้าภาควิชาวารสารศาสตร์วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยปัดจาจารัน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญมาก เธอจะไม่แค่ส่งเรื่องร้องเรียนไปที่คณะกรรมการสื่อเท่านั้น แต่จะร้องเรียนไปยังกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้ด้วยเช่นกัน
สาเหตุที่หอยมือเสือคือหนึ่งในสัตว์คุ้มครอง เป็นเพราะว่ามันเป็นสัตว์ที่มีอยู่จำนวนน้อย หายาก สามารถขยายพันธุ์และอาศัยอยู่ได้ในบางพื้นที่เท่านั้น และกว่าที่ไข่หนึ่งใบจะพัฒนาจนกลายเป็นหอยที่โตเต็มวัยได้ มันต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และเมื่อถึงฤดูวางไข่ อัตราการรอดชีวิตของหอยแต่ละตัวถือว่าต่ำมาก โดยตัวแทนนักอนุรักษ์จากองค์กร Eco Diver Journalists กล่าวว่า จากไข่หลายล้านใบ อาจเหลือรอดเพียงแค่ไม่กี่สิบตัว เพราะพวกมันมักจะตกเป็นเหยื่อของผู้ล่า

ด้าน ฮาร์ดลี สเตฟาโน ปาริเอลา ผู้ประสานงานการตรวจสอบเนื้อหาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และจะเร่งตรวจสอบรายการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด